บริการรับร่างพินัยกรรม โดยทนายความมืออาชีพส่งต่อทรัพย์สินตามเจตนา ป้องกันปัญหาทายาทขัดแย้ง
“ถ้าฉันเป็นอะไรไป… ทรัพย์สินที่หามาทั้งชีวิต จะตกเป็นของใคร?”
นี่คือคำถามที่หลายคนเก็บไว้ในใจ บางคนอาจคิดว่าการ “ทำพินัยกรรม” เป็นลางร้าย หรือเป็นเรื่องของคนมั่งมีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง การละเลยที่จะวางแผนส่งต่อมรดก คือจุดเริ่มต้นของ “หายนะในครอบครัว” ที่พบบ่อยที่สุด
คุณอาจมั่นใจว่าลูกหลานรักกันดี หรือคู่สมรสของคุณจะได้รับทุกอย่าง แต่กฎหมายไม่ได้คิดเช่นนั้น เมื่อไม่มีพินัยกรรม กฎหมายจะเข้ามา “บังคับแบ่ง” ทรัพย์สินของคุณทันที โดยไม่สนใจว่าคุณต้องการมอบให้ใครเป็นพิเศษหรือไม่
อย่าปล่อยให้การจากไปของคุณ สร้างภาระและความขัดแย้งให้คนข้างหลัง การร่างพินัยกรรมที่รัดกุมและถูกต้องตามกฎหมายในวันนี้ คือการแสดงความรักและความรับผิดชอบครั้งสุดท้ายที่ชัดเจนที่สุด
หายนะที่มองไม่เห็น: เมื่อการจากไป… ไม่ได้ทำพินัยกรรม
คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่า ทันทีที่บุคคลเสียชีวิตโดยไม่มีพินัยกรรม กฎหมายมรดก (ป.พ.พ. บรรพ 6) จะเข้ามาทำหน้าที่แบ่งทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ “ทายาทโดยธรรม” ตามลำดับชั้นทันที ซึ่งมักจะนำไปสู่ปัญหาที่คาดไม่ถึง:
1. ทรัพย์สินไม่ตกถึงคนที่คุณ “อยากให้”
กฎหมายแบ่งมรดกให้ทายาท 6 ลำดับ (และคู่สมรส) โดยไม่สนใจความสัมพันธ์ในชีวิตจริง
- ตัวอย่าง: คุณต้องการยกบ้านให้ “ลูกคนเล็ก” ที่ดูแลคุณมาตลอดชีวิต แต่กฎหมายจะสั่งให้แบ่งบ้านหลังนี้เท่าๆ กันให้ลูกทุกคน (รวมถึงคนที่ไม่ได้ติดต่อกัน 10 ปี) พ่อแม่ของคุณ (ถ้ายังมีชีวิต) ก็มีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ด้วย
- ผลลัพธ์: บ้านอาจต้องถูกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาแบ่งกัน ลูกคนที่ดูแลคุณมาอาจไม่มีที่อยู่
2.เกิด “สงครามเครือญาติ” ทันที
เมื่อไม่มีเจตนาที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร การแบ่งมรดกจะกลายเป็นการต่อสู้
- ตัวอย่าง: ทายาทต่างถกเถียงกันว่าใครควรได้อะไร “พ่อเคยบอกว่าจะให้ที่ดินฉัน” “แม่บอกจะให้ทองฉัน” คำพูดลอยๆ ไม่มีผลทางกฎหมาย
- ผลลัพธ์: พี่น้องมองหน้ากันไม่ติด ฟ้องร้องคดีมรดกที่ยืดเยื้อนานหลายปี เสียทั้งเงินและเวลา
3.คู่ชีวิต (ที่ไม่ได้จดทะเบียน) ไม่ได้อะไรเลย
หากคุณอยู่กินกับคู่ชีวิต (คู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียน) และดูแลกันมาทั้งชีวิต แต่ตามกฎหมาย เขาหรือเธอ “ไม่ใช่ทายาทโดยธรรม”
- ผลลัพธ์: ทรัพย์สินทั้งหมดที่คุณหามาด้วยกันจะตกเป็นของญาติพี่น้องตามกฎหมาย คู่ชีวิตของคุณอาจถูกไล่ออกจากบ้านที่สร้างมาด้วยกัน
4.ธุรกิจหรือกิจการหยุดชะงัก
หากคุณเป็นเจ้าของบริษัท หุ้นในบริษัทจะกลายเป็นมรดกที่ถูกแบ่งให้ทายาททุกคน
- ผลลัพธ์: หากทายาทบางคนไม่มีความสามารถในการบริหาร หรือต้องการขายหุ้นทิ้งทันที ธุรกิจที่คุณสร้างมาอาจต้องล่มสลาย หรือถูกยึดโดยคนนอก
พินัยกรรม: เครื่องมือเดียวที่ให้ “อำนาจ” คุณกำหนดอนาคต
พินัยกรรม คือ “คำสั่งสุดท้าย” ที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย เป็นเอกสารเดียวที่จะลบล้างการแบ่งมรดกตามกฎหมาย (ทายาทโดยธรรม) และให้อำนาจคุณในการตัดสินใจ 100%
การร่างพินัยกรรมกับทนายความ แก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร?
- กำหนดตัวผู้รับได้ชัดเจน (Specific Legacy): “ข้าพเจ้าขอยกบ้านโฉนดเลขที่… ให้แก่นาง ก. ผู้เป็นภรรยา แต่เพียงผู้เดียว” นี่คือคำสั่งที่ชัดเจนและมีผลทันที
- ตัดทายาทโดยธรรม (Disinheritance): คุณสามารถระบุเหตุผลและ “ตัด” ทายาทบางคนไม่ให้ได้รับมรดกได้ (ภายใต้เงื่อนไขกฎหมาย)
- ปกป้องคู่ชีวิต (Partner Protection): สำหรับคู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียน พินัยกรรมคือหนทาง “เดียว” ที่จะมอบทรัพย์สินให้แก่กันและกันได้
- วางแผนสืบทอดธุรกิจ (Business Succession): กำหนดให้หุ้นส่วนธุรกิจ หรือลูกคนที่มีความสามารถที่สุด เป็นผู้รับหุ้นบริษัท เพื่อให้กิจการเดินต่อได้
รู้จักประเภทของพินัยกรรม (และทำไมร่างกับทนายจึงดีที่สุด)
พินัยกรรมมีหลายแบบ แต่ละแบบมีจุดอ่อนที่ทนายความผู้เชี่ยวชาญจะช่วยอุดรอยรั่วได้:
1.พินัยกรรมแบบธรรมดา (ป.พ.พ. มาตรา 1656): คือแบบที่พิมพ์หรือเขียนขึ้น และต้องมีพยานลงลายมือชื่ออย่างน้อย 2 คน
- จุดอ่อน: หากพยานขาดคุณสมบัติ (เช่น เป็นผู้รับมรดก) หรือกระบวนการลงนามไม่ถูกต้อง พินัยกรรมจะกลายเป็น “โมฆะ” ทันที
- ทางแก้ (บริการของเรา): เราร่างเนื้อหาที่รัดกุมและ “ควบคุมกระบวนการลงนามและพยาน” ให้ถูกต้อง 100%
2.พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ (ป.พ.พ. มาตรา 1657): ผู้ทำต้องเขียนด้วยลายมือตนเองทั้งฉบับ
- จุดอ่อน: มักเขียนตกหล่น ไม่ครอบคลุมทรัพย์สินทั้งหมด ใช้ถ้อยคำกำกวม ตีความได้หลายแง่ และง่ายต่อการถูกปลอมแปลงลายมือ หรือถูกทำลายหลังเสียชีวิต
- ทางแก้ (บริการของเรา): การพิมพ์โดยมีทนายรับรองและมีพยาน ยืนยันเจตนาได้ชัดเจนกว่า และทนายมักเก็บสำเนาไว้เป็นหลักฐาน
3.พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง (ป.พ.พ. มาตรา 1658): ทำที่สำนักงานเขตหรืออำเภอ
- จุดอ่อน: ไม่เป็นความลับ (เจ้าหน้าที่รับรู้) และเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ที่ปรึกษากฎหมาย เขาแค่ “จดตามคำบอก” ซึ่งอาจไม่รัดกุมพอสำหรับเคสที่ซับซ้อน
สรุปสาระสำคัญ: ทำพินัยกรรม ไม่ใช่เพื่อความตาย แต่เพื่อความสบายใจ
การร่างพินัยกรรมไม่ใช่การแช่งตัวเอง แต่คือการ “บริหารจัดการความเสี่ยง” ให้กับครอบครัว มันคือการลงทุนเพียงครั้งเดียว เพื่อแลกกับความสบายใจตลอดชีวิต และเพื่อปกป้องคนที่คุณรักจากความขัดแย้งในวันที่คุณไม่อยู่ปกป้องพวกเขาแล้ว
การมีพินัยกรรมที่ชัดเจน รัดกุม จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องคดีมรดกในอนาคต (ซึ่งสูงกว่าค่าร่างพินัยกรรมหลายสิบเท่า) และที่สำคัญที่สุด คือการ “รักษาสายสัมพันธ์ของครอบครัว” ไว้ให้คงเดิม
ทำไมต้องร่างพินัยกรรมกับทนายความผู้เชี่ยวชาญของเรา?
การร่างพินัยกรรมไม่ใช่แค่การกรอกแบบฟอร์ม แต่มันคืองานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางกฎหมายครอบครัวและมรดกขั้นสูง
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Expertise) เราไม่ใช่ทนายทั่วไป แต่เราคือ “ทนายความด้านการวางแผนมรดก” โดยตรง เราเข้าใจความซับซ้อนของสินสมรส สินส่วนตัว และลำดับทายาทอย่างลึกซึ้ง
- ออกแบบเฉพาะบุคคล (Custom-Tailored) เราไม่มี “พินัยกรรมสำเร็จรูป” เราจะสัมภาษณ์คุณเพื่อทำความเข้าใจทรัพย์สินทั้งหมด ความสัมพันธ์ในครอบครัว และ “เจตนาที่แท้จริง” ของคุณ เพื่อร่างเอกสารที่ตอบโจทย์ชีวิตคุณโดยเฉพาะ
- รัดกุมและป้องกันการโต้แย้ง (Legally Watertight) เราเชี่ยวชาญในการใช้ถ้อยคำทางกฎหมายที่ “ชัดเจน” และ “ตีความเป็นอื่นไม่ได้” เพื่อป้องกันการถูกท้าทายหรือตีความพินัยกรรมในศาล
- รักษาความลับสูงสุด (Full Confidentiality) การวางแผนมรดกเป็นเรื่องส่วนตัวที่สุด เราการันตีการรักษาความลับของข้อมูลและเจตนาของคุณ 100%
- บริการครบวงจร (One-Stop Service) เราให้คำปรึกษาตั้งแต่การรวบรวมรายการทรัพย์สิน การวางแผนภาษีมรดก (เบื้องต้น) ไปจนถึงการจัดการกระบวนการลงนามและพยานให้ถูกต้องสมบูรณ์
อย่ารอ… จนวันที่คุณไม่สามารถ “เลือก” ได้อีกต่อไป
การวางแผนมรดกคือการแสดงความรักที่ชัดเจนที่สุดที่คุณสามารถมอบให้ครอบครัวได้ อย่าปล่อยให้การตัดสินใจทางกฎหมายที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ ถูกกำหนดโดย “กฎหมาย” แทนที่จะเป็น “หัวใจ” ของคุณ
เริ่มต้นวางแผนอนาคตที่มั่นคงเพื่อคนที่คุณรักวันนี้
ปรึกษาเบื้องต้นกับทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านมรดก ฟรี!
👉 โทรนัดหมาย: [ใส่เบอร์โทรศัพท์] 👉 แอด LINE ปรึกษา: [ใส่ Line ID หรือ ลิงก์แอดไลน์] 👉 อีเมล: [ใส่อีเมล]
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการร่างพินัยกรรม
Q1: ต้องมีทรัพย์สินมากแค่ไหน ถึงควรทำพินัยกรรม?
A: ไม่เกี่ยวกับจำนวนเงิน แต่เกี่ยวกับ “เจตนา” ถ้าคุณมีทรัพย์สินแม้เพียง 1 อย่าง (เช่น บ้าน หรือบัญชีเงินฝาก) และคุณต้องการ “ระบุตัว” คนที่จะได้รับสิ่งนั้นโดยเฉพาะ หรือต้องการกันคนอื่นไม่ให้มายุ่ง คุณควรทำพินัยกรรมทันที
Q2: ทำพินัยกรรมไปแล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้หรือไม่?
A: ได้แน่นอน พินัยกรรมสามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกได้ตลอดชีวิตตราบที่คุณยังมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ เราแนะนำให้ทบทวนพินัยกรรมทุก 3-5 ปี หรือเมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ในชีวิต (เช่น แต่งงานใหม่, มีบุตรเพิ่ม, ทรัพย์สินเพิ่ม)
Q3: พยานในพินัยกรรมต้องเป็นใคร หามาจากไหน?
A: พยาน 2 คนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ห้ามเป็นผู้รับมรดกหรือคู่สมรสของผู้รับมรดกในพินัยกรรมเด็ดขาด (มิฉะนั้นจะโมฆะในส่วนนั้น) ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเตรียมมาเอง แต่หากไม่สะดวก เราสามารถให้คำแนะนำหรือช่วยบริหารจัดการในส่วนนี้ได้ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย 100%